ดอกยางหมดอายุดูยังไง

ดอกยางรถยนต์หมดอายุ

ยางรถเป็นส่วนสำคัญมากมีผลต่อการขับเคลื่อนของรถโดยตรง การใช้งานยางรถนานๆไปย่อมมีความเสื่อมของดอกยางที่เกิดจากการใช้งานเสียดสีกับถนนทุกครั้งที่ล้อหมุน ซึ่งแน่นอนว่าดอกยางก็จะสึกตามไปด้วยแล้วเราจะดูยังไง รู้ได้ยังไงว่าดอกยางรถยนต์หมดอายุของเราสึกจนถึงคราวต้องเปลี่ยนแล้ว

บริษัทผู้ออกแบบ ผลิตยางรถได้คิดค้นสัญลักษณ์เครื่องหมายต่างๆไว้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ยางรถโดยสะดวกอยู่แล้ว โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือวัดว่าร่องดอกยางตื้นหรือลึกอยู่ โดยในร่องยางบางจุดจะมีเป็นเม็ดนูนขึ้นจากปกติประมาณ 1.5-2 มิลลิเมตร แต่ไม่นูนขึ้นมาจนเท่ากับหน้ายางตอนที่ยังใหม่ๆ เช่นยางใหม่ๆ ร่องอาจลึกถึง 8 มิลลิเมตรเท่ากันตลอด จะมีเพียงบางจุดที่มีร่องลึกแค่ 6-6.5มิลลิเมตร

คล้ายเป็นเนินเตี้ยๆ อยู่ก้นร่องยาง ซึ่งเมื่อใช้งานไปนานๆดอกยางจะสึกลงจนถึงเม็ดเนินที่ก้นร่องยางและนั้นเป็นการบ่งบอกว่าดอกยางเตี้ยเกินไป หรือร่องยางสึกเกินไปแล้ว ปกติดอกยางจะมีร่องที่เป็นแนวตรงรอบยางอยู่แล้วแต่พอนำมาใช้งานนานวันเข้าดอกยางร่องยางก็จะสึกลงๆจนถึงจุดๆหนึ่งที่ผู้ออกแบบได้ทำเครื่องหมายไว้ให้สังเกตุ ร่องยางที่ต่อกันรอบวงก็จะกลายมาเป็นรอยต่อมีเนินมาขวางเส้นอยู่และนั่นทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าดอกยางรถยนต์หมดอายุสึกจนต้องเปลี่ยนเส้นใหม่แล้ว

จุดเนินจะดูได้จากสัญลักษณ์สามเหลี่ยมขนาดเล็กที่ขอบของแก้มยางอยู่บริเวณใกล้ๆ กับขอบริมของหน้ายาง พร้อมตัวอักษร TWI ปกติแล้วจะมี 6 จุดที่แก้มยางแต่ละด้าน แบ่งระยะห่างเท่าๆ กัน ของยางแต่ละเส้น

แต่ยางบางยี่ห้ออาจมีระยะห่างไม่เท่ากัน หรือไม่ได้มีทั้ง 6 จุด แต่ก็มีหลายจุดอยู่ในแต่ละด้านของยาง หรืออาจใช้สัญลักษณ์อื่นแทนสามเหลี่ยมเล็กๆก็มี

อย่างไรก็ตามสัญลักษณ์เหล่านี้ ไม่ได้มีไว้ถึงบอกการสึกของยางเป็นเพียงจุดตำแหน่งสังเกตุดอกยางเท่านั้น  สัญลักษณ์ก็อาจสึกจางหายไปได้อาจจะเกิดจากการเข้าโค้งของรถหรือเบียกขอบฟุตบาทก็เป็นได้แต่หลักๆก็ให้เราสังเกตุดูเนินเม็ดเตี้ยๆ ที่ร่องยาง เมื่อไรที่ดอกสึกไปถึงยอด

เนินนั้นแล้ว แสดงว่าดอกยางหมดร่องยางตื้นไม่ควรใช้ต่อ อย่าปล่อยให้สึกจนหมดเนินหรือหมดร่องเพราะผู้ออกแบบได้คิดคำณวนมาให้แล้วว่าเมื่อไหร่ที่ดอกยางยังไม่สึกถึงเม็ดเนินนั้นการรีดน้ำของยางรถก็ยังมีประสิทธิภาพพร้อมกับยังยึดเกาะถนนได้อย่างดีแต่หากเมื่อไหร่ที่ดอกยางสึกจนถึงจุดเนินที่กำหนดไว้แล้วการรีดน้ำจะไม่เป็นผลอันตรายก็จะตามมากับผู้ขับขี่ซึ่งประเมิณค่ามิได้ยางแต่ละยี่ห้อจะมีเม็ดเนินสูงเท่าไรนั้นจะพบได้ ว่าในแต่ละยี่ห้ออาจมีความสูงไม่เท่ากันแต่อยู่ในช่วงที่ใกล้เคียงกัน คือ 1.5-2 มิลลิเมตรผู้ใช้ยางไม่มีความจำเป็นต้องหาอุปกรณ์เครื่องวัดมาให้ยุ่งยากเพียงแค่คอยสังเกตุจุดเม็ดเนินดั่งข้างต้นก็เพียงพอแล้วแสะหมั่นสังเกตุตามแก้มยางอย่าให้มีรอยแตก อีกทั้งไม่ควรจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานๆหลายๆวันหรือเป็นเดือนเพราะอาจจะทำให้ยางบวมเสียรูปเพราะโดนกดทับเป็นเวลานานทำให้โครงสร้างของยางเสื่อมลงหากหมั่นดูแลเอาใจใส่แล้วทุกการขับขี่ของคุณก็จะปลอดภัยทุกการเดนทางอย่าลืมตรวจเช็คลมยางให้เหมาะสมด้วยนะครับ