ฟังเพลงขณะขับรถ ใครว่าไม่อันตราย
ฟังเพลงขณะขับรถ ใครว่าไม่อันตราย เชื่อว่าหลายคนคงชอบแน่ กับการร้องเพลงขณะขับรถ แถมบางคนแค่ร้องเพลงไม่พอยังมีการยักย้ายส่ายสะโพก โยกหัว โบกไม้โบกมือกันเสียเต็มที่ สนุกสนานประหนึ่งว่าตนเองได้เปิดคอนเสิร์ตขนาดย่อมๆของตัวเอง ซึ่งแน่นอนการทำแบบนั้นย่อมส่งผลให้ผู้ขับขี่มีความสุข อารมณ์ดี สนุกสนาน แต่อีกประการที่ควรคำนึงถึงเป็นสำคัญ ก็คือ สมาธิในการขับขี่ ที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรมีอย่างมาก ดังนั้น เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการฟังเพลงขณะขับรถมันเหมาะสมหรือไม่? ส่งผลให้ผู้ขับขี่มีสมาธิเพิ่มขึ้นหรือเปล่า? หรือการฟังเพลงขณะขับรถจะทำให้ผู้ขับขี่ไม่มีสมาธิในการขับรถ ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุกันแน่ มาหาคำตอบกันค่ะ ฟังเพลงขณะขับรถ ผลการวิจัยสำหรับคนฟังเพลงขณะขับรถ ค้นพบว่า เสียงเพลงที่ได้ยินขณะขับรถมีส่วนทำให้สมาธิของผู้ขับขี่ลดลงจากปกติ รวมไปถึงยังส่งผลต่อปฏิกิริยาตอบสนองที่จะช้าลงตามไปด้วย ซึ่งจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างพบว่า คนส่วนใหญ่จะมีปฏิกิริยาที่จะละสายตาจากการขับขี่ตรงหน้า เพื่อมองไปยังแหล่งกำเนิดเสียงหรือลำโพงในรถ เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสมองของคนเรามีความคาดหวังและมองหาสิ่งที่เราได้ยิน ซึ่งนั่นจะเป็นช่วงเวลาที่จะทำให้คุณเสียสมาธิจากการขับขี่นั่นเอง สอดคล้องกับผลวิจัย ในประเทศอิสราเอล ที่ลงลึกไปถึงรายละเอียด อย่างชนิดของเพลงที่ฟังขณะขับรถ โดยระบุว่า เพลงที่ใช้สำหรับแดนซ์ หรือ ออกกำลังกาย ไม่เหมาะสำหรับใช้ฟังขณะขับรถ เพราะจังหวะของเพลงที่เร็วเกินไปมีผลต่อพฤติกรรมในการขับขี่ด้วยเช่นเดียวกัน 4 สิ่งกวนใจขณะขับรถ 1.การพูดคุย ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับการพูดคุย ระหว่างผู้ขับขี่กับเพื่อนร่วมทาง แต่ใครจะรู้ว่า แค่การพูดคุยกัน ก็เป็นการทำลายสมาธิของผู้ขับขี่ได้อีกทางหนึ่ง เพราะธรรมชาติคนเราเมื่อพูดคุยกันก็มักจะต้องหันหน้าเข้าหากัน เพื่อให้เห็นกริยาท่าทางของคู่สนทนา ทำให้ความสนใจของผู้ขับขี่ก็คงไม่ได้อยู่บนท้องถนนแต่กลับอยู่กับเพื่อนร่วมทาง จึงเป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย 2.การเล่นมือถือ แน่นอนสำหรับ