­

“ป้ายแดงปลอม” สังเกตอย่างไร ถ้าใช้แล้วจะผิดขนาดไหน

“ป้ายแดงปลอม” สังเกตอย่างไร ถ้าใช้แล้วจะผิดขนาดไหน เมื่อได้ออกรถป้ายแดงจากโชว์รูมไม่ว่าใครก็เป็นอันต้องเห่อด้วยกันทั้งนั้น เพราะว่าเรากำลังจะได้สัมผัสกับรถยนต์ รถป้ายแดงคันใหม่ไร้มลทิน กระจกทุกบานใสแจ๋ว เบาะหนังชุดใหม่เงางาม พร้อมบรรยากาศภายในที่แสนจะหอมกรุ่นชวนฟินเป็นที่สุด และจะเข้าสู่อีกระดับของความฟินเมื่อเราเริ่มขับ จะสัมผัสได้ถึงความโดดเด่นด้วย “ป้ายทะเบียนสีแดง” ที่จะดึงดูดทุกสายตาบนท้องถนน โดยเฉพาะสายตาของพี่ๆ ตำรวจ เพราะว่าตอนนี้กำลังมีการระบาดของ “ป้ายแดงปลอม” ทำไมจึงมีคนใช้ ป้ายทะเบียนแดงปลอม? เมื่อซื้อรถคันใหม่จากโชว์รูมเราจะได้รับป้ายทะเบียนแดงชั่วคราว เพื่อใช้ระหว่างรอขั้นตอนการจดขึ้นทะเบียน(เพื่อจะได้ป้ายขาว) โดยทางเซลล์หรือโชว์รูมจะเป็นฝ่ายทำเรื่อง ขอป้ายทะเบียนแดงจากกรมการขนส่งในพื้นที่นั้นๆ แต่การขอป้ายทะเบียนแดงก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนและราคาที่ค่อนข้างสูง เซลล์แต่ละคนจึงมีป้ายแดงอย่างจำกัด แต่สวนทางกับยอดขายรถที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วจะทำอย่างไรหากป้ายแดงมีไม่พอ? เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ การใช้ “ป้ายแดงปลอม” จึงเกิดขึ้น โดยมีผู้ใช้อยู่ 2 กลุ่มหลัก เลือกใช้ป้ายแดงปลอมด้วยตัวเอง อาจด้วยเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้เจ้าของรถเลือกที่จะใช้ป้ายแดงปลอม ไม่ว่าจะเป็นความต้องการใช้รถโดยที่ไม่สามารถรอป้ายแดงจริงได้ หรือความเชื่อเรื่องเลขทะเบียนนำโชคจึงต้องใช้ป้ายที่เป็นเลขนี้ๆเท่านั้น โดนหลอกให้ใช้ป้ายแดงปลอม บางคนไม่ได้เต็มใจใช้ป้ายแดงปลอมเสมอไป แต่พวกเขาอาจถูกเซลล์ผู้คลั่งยอดขายหลอกให้ป้ายแดงปลอมมาใช้ เพื่อแลกกับการที่ขายรถใหม่ออกไปได้นั่นเอง เล่มคุมป้ายแดง เพื่อไม่ให้ตกเป็นหนึ่งในผู้โชคร้ายที่โดนหลอกให้ใช้รถป้ายแดงปลอม เรามาเรียนรู้วิธีการสังเกตป้ายแดงปลอมกันไว้สักหน่อยดีกว่า การสังเกต ป้ายทะเบียนแดงปลอม ตรา ขส.ป้ายทะเบียนของแท้ ต้องมีตรา ขส.(ย่อมาจาก ขนส่ง) ติดอยู่ที่มุมล่างขวา พร้อมกับสมุดคุมป้ายแดงที่ช่วยยืนยันว่า

By |พฤศจิกายน 17th, 2017|Categories: สาระน่ารู้|Tags: , |ปิดความเห็น บน “ป้ายแดงปลอม” สังเกตอย่างไร ถ้าใช้แล้วจะผิดขนาดไหน

ฟังเพลงขณะขับรถ ใครว่าไม่อันตราย

ฟังเพลงขณะขับรถ ใครว่าไม่อันตราย เชื่อว่าหลายคนคงชอบแน่ กับการร้องเพลงขณะขับรถ แถมบางคนแค่ร้องเพลงไม่พอยังมีการยักย้ายส่ายสะโพก โยกหัว โบกไม้โบกมือกันเสียเต็มที่  สนุกสนานประหนึ่งว่าตนเองได้เปิดคอนเสิร์ตขนาดย่อมๆของตัวเอง ซึ่งแน่นอนการทำแบบนั้นย่อมส่งผลให้ผู้ขับขี่มีความสุข อารมณ์ดี สนุกสนาน แต่อีกประการที่ควรคำนึงถึงเป็นสำคัญ ก็คือ สมาธิในการขับขี่ ที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรมีอย่างมาก ดังนั้น เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการฟังเพลงขณะขับรถมันเหมาะสมหรือไม่? ส่งผลให้ผู้ขับขี่มีสมาธิเพิ่มขึ้นหรือเปล่า? หรือการฟังเพลงขณะขับรถจะทำให้ผู้ขับขี่ไม่มีสมาธิในการขับรถ ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุกันแน่ มาหาคำตอบกันค่ะ ฟังเพลงขณะขับรถ ผลการวิจัยสำหรับคนฟังเพลงขณะขับรถ ค้นพบว่า เสียงเพลงที่ได้ยินขณะขับรถมีส่วนทำให้สมาธิของผู้ขับขี่ลดลงจากปกติ รวมไปถึงยังส่งผลต่อปฏิกิริยาตอบสนองที่จะช้าลงตามไปด้วย ซึ่งจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างพบว่า คนส่วนใหญ่จะมีปฏิกิริยาที่จะละสายตาจากการขับขี่ตรงหน้า เพื่อมองไปยังแหล่งกำเนิดเสียงหรือลำโพงในรถ เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสมองของคนเรามีความคาดหวังและมองหาสิ่งที่เราได้ยิน ซึ่งนั่นจะเป็นช่วงเวลาที่จะทำให้คุณเสียสมาธิจากการขับขี่นั่นเอง สอดคล้องกับผลวิจัย ในประเทศอิสราเอล ที่ลงลึกไปถึงรายละเอียด อย่างชนิดของเพลงที่ฟังขณะขับรถ โดยระบุว่า เพลงที่ใช้สำหรับแดนซ์ หรือ ออกกำลังกาย ไม่เหมาะสำหรับใช้ฟังขณะขับรถ เพราะจังหวะของเพลงที่เร็วเกินไปมีผลต่อพฤติกรรมในการขับขี่ด้วยเช่นเดียวกัน 4 สิ่งกวนใจขณะขับรถ 1.การพูดคุย ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับการพูดคุย ระหว่างผู้ขับขี่กับเพื่อนร่วมทาง แต่ใครจะรู้ว่า แค่การพูดคุยกัน ก็เป็นการทำลายสมาธิของผู้ขับขี่ได้อีกทางหนึ่ง เพราะธรรมชาติคนเราเมื่อพูดคุยกันก็มักจะต้องหันหน้าเข้าหากัน เพื่อให้เห็นกริยาท่าทางของคู่สนทนา ทำให้ความสนใจของผู้ขับขี่ก็คงไม่ได้อยู่บนท้องถนนแต่กลับอยู่กับเพื่อนร่วมทาง จึงเป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย 2.การเล่นมือถือ แน่นอนสำหรับ

By |กันยายน 27th, 2017|Categories: สาระน่ารู้|Tags: , , |ปิดความเห็น บน ฟังเพลงขณะขับรถ ใครว่าไม่อันตราย

วิธีเตรียมตัวก่อนบริจาคเลือด

วิธีเตรียมตัวก่อนบริจาคเลือด ก่อนที่จะไปบริจาคเลือดที่สภากาชาดไทย เราควรจะต้องทราบก่อนว่า จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ขั้นตอนและวิธีปฎิบัติขณะบริจาคโลหิตต้องทำอย่างไร คุณสมบัติผู้บริจาคโลหิต มีน้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป อายุระหว่าง 17 ปี ถึง 60 ปีบริบูรณ์ ( ถ้าเป็นผู้บริจาคครั้งแรกต้องอายุไม่เกิน 55 ปี) มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่อยู่ระหว่างไม่สบายหรือรับประทานยาใดๆ ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ หรือติดยาเสพติด สตรีไม่อยู่ในระหว่างมีประจำเดือน ตั้งครรภ์หรือ ให้นมบุตร และไม่มีการคลอดบุตรหรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา การเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต - นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อเนื่อง ในเวลาปกติคืนก่อนวันบริจาค - รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง และยาธาตุเหล็กเพิ่ม - รับประทานอาหารมื้อหลักก่อนมาบริจาคโลหิต หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากจะทำให้สีของพลาสมาผิดปกติเป็นสีขาวขุ่น ไม่สามารถนำไปใช้ได้ - ดื่มน้ำ 3-4 แก้ว และเครื่องดื่มเหลวเพิ่ม เช่น น้ำผลไม้ นม น้ำหวาน เพื่อเพิ่มปริมาณโลหิตในร่างกาย จะช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อน

By |กันยายน 18th, 2017|Categories: การดูแลสุขภาพ, สาระน่ารู้|Tags: , |ปิดความเห็น บน วิธีเตรียมตัวก่อนบริจาคเลือด

เชื้อโรคใน “ฟองน้ำล้างจาน”

เชื้อโรคใน “ฟองน้ำล้างจาน” หลายคนใส่ใจกับความสะอาดของภาชนะ และเครื่องไม้เครื่องเรือนต่าง ๆ จนลืมไปว่า ฟองน้ำล้างจาน ที่เรานำมาใช้ทำความสะอาดให้ข้าวของในบ้านนั่นแหละอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่เรามองข้ามไปอย่างคาดไม่ถึง นั่นเพราะเคยมีการเก็บตัวอย่าง "ฟองน้ำ" หรือ "แผ่นขัดใย" ที่เรา ๆ ใช้กัน รวมทั้งในร้านอาหารที่นำ "ฟองน้ำ" มาล้างจานขัดถูอะไรต่าง ๆ มากมาย มาทดสอบหาปริมาณเชื้อโรคที่ปนเปื้อน พบว่า ในฟองน้ำมีจุลินทรีย์ และแบคทีเรียจำนวนมาก ทั้งชนิดที่ไม่รุนแรงและรุนแรง อย่างเช่น "เชื้อซัลโมเนลล่า" แบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ หรืออุจจาระร่วง ดังนั้น หากนำฟองน้ำเหล่านั้นไปขัดถูภาชนะ ช้อน ส้อม ฯลฯ ที่คนจะนำมาใช้ต่อ เราก็มีสิทธิ์เราเอาเชื้อโรคเข้าสู่รางกายได้ แต่ไม่ต้องกังวลจนเกิดเหตุ เพราะหากเราทำความสะอาดฟองน้ำ หรือแผ่นขัดใยดี ๆ เชื้อโรคก็จะไม่มากล้ำกราย โดยวิธีทำความสะอาดก็คือ ให้แช่ฟองน้ำในน้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำเปล่าครึ่งลิตร ทิ้งไว้ค้างคืน หรือนำฟองน้ำไปตากแดดจัด ๆ อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง ทั้งกรด และความร้อนจากแสงแดดจะช่วยลดปริมาณจุลินทรีย์ได้ นอกจากนี้

By |กันยายน 7th, 2017|Categories: สาระน่ารู้|Tags: , |ปิดความเห็น บน เชื้อโรคใน “ฟองน้ำล้างจาน”

ป้องกันฟ้าผ่า เรื่องที่ควรรู้

ป้องกันฟ้าผ่า เรื่องที่ควรรู้ เรื่องฟ้าผ่ามาเล่าสู่กันฟัง จากที่เคยมีข่าวว่า มีวัวใส่ที่คล้องคอเป็นโลหะ แล้วถูกฟ้าผ่าตายนั้น ไม่น่าจะจริง คือถูกฟ้าผ่าตายน่ะใช่ แต่ไม่ใช่เพราะใส่ปลอกคอโลหะ  แต่น่าจะมาจากที่วัวเปียกน้ำ และตัววัวเองก็สัมผัสน้ำที่พื้น ทีนี้พอฟ้าผ่ามาที่ต้นไม้ มันก็วิ่งจากต้นไม้ ไปที่น้ำที่นองกับพื้น และไปที่วัวด้วย มันก็เลยได้รับอานิสงค์ ส่วน บริเวณคอของวัวที่มีรอยไหม้นั้น มาจากกระแสฟ้าผ่า แหล่ะแต่ แต่ว่า แหล่งที่มาของฟ้าผ่ามาจากต้นไม้ และไหลมาตามช่องทางนะ ไม่ได้ผ่าที่โลหะที่คล้องคอวัวโดยตรง ส่วนเรื่องโทรศัพท์ที่โล่งเวลาฝนฟ้าคะนองแล้วจะโดนฟ้าผ่านั้น ก็ไม่จริง เค้าให้เหตุผลว่า คลื่นโทรศัพท์นั้นไม่ทำให้อากาศแตกตัวจนเป็นสื่อนำได้  แต่…… ก็มีผลเหมือนกัน   กล่าวคือ หากฟ้าผ่าใกล้ๆ มันอาจทำให้แบตเตอร์รี่ หรือระบบโทรศัพท์ลัดวงจร จนระเบิดได้   ทั้งนี้หากโทรศัพท์ที่โล่งเวลาฝนฟ้าคะนอง ถ้าจะโดนฟ้าผ่า ก็คงไม่ใช่เพราะโทรศัพท์ กล่าวคือไม่ถือโทรศัพท์ก็โดนผ่าได้เช่นกัน วิธีป้องกัน เวลาฝนตกก็อย่าให้น้ำเปียกกับตัวเรา เพราะถ้าฟ้ามันผ่าที่ไหนแล้วน้ำมันเกิดเชื่อมกับตัวเรา เราก็โดนด้วย

By |สิงหาคม 28th, 2017|Categories: สาระน่ารู้|Tags: , |ปิดความเห็น บน ป้องกันฟ้าผ่า เรื่องที่ควรรู้

งูกลัวอะไรมากที่สุด ป้องกันอย่างไรไม่ให้เข้าบ้าน

งูกลัวอะไรมากที่สุด ป้องกันอย่างไรไม่ให้เข้าบ้าน ป้องกันงูไม่ให้เข้าบ้าน บ้านคนที่ส่วนใหญ่จะมีพื้นที่รอบนอกตัวบ้านเป็นส่วนหรือทำพื้นที่ทางการเกษตร บางครั้งอาจจะต้องพบเจอกับการมาเยือนของสัตว์มีพิษอย่างเช่นงูครับ ไม่ว่าจะเป็นงูพิษอย่างเช่นงูจงอางหรือว่างูเห่า หรือจะเป็นงูขนาดใหญ่อย่างเช่นงูเหลือมหรืองูหลามก็สามารถเจอได้ทั้งนั้น และหากว่าเราจะหาทางป้องกันนั้น เราก็มีวิธีป้องกันที่น่าจะพอรับมือได้บ้าง ทั้งในแบบเค้าโครงความจริงและตามความเชื่อที่มีมาแต่สมัยก่อนนะครับ ตามปกติแล้วสิ่งที่งูมักจะกลัวมากที่สุดก็คือสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้ บ้านที่เลี้ยงสุนัข แม้ว่าบางคนอาจจะคิดว่า จะส่งสุนัขไปตายแทนเลยหรือ … จริงๆ แล้ว สุนัขเป็นสัตว์ที่จะไม่ตื่นตูมหรือเคลื่อนไหวหากว่าไม่พบสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในบริเวณที่มันนอนเฝ้าอยู่ครับ หากว่ามันเห็นงูเลื้อยเข้ามา มันจะเห่าเสียงดัง ซึ่งสัตว์อย่างงู จะไม่ชอบเสียงดังและมันจะหนีไปเอง แต่กรณีนี้ ใช้ได้กับงูประเภทงูเขียวหรืองูพิษทั่วไป แต่ถ้าเป็นงูหลามหรือเหลือม สุนัขจะเป็นอันตรายซะเอง บ้านที่มีการโรยหรือราดสิ่งของที่มีกลิ่นแรงอย่างเช่นน้ำมันก๊าด น้ำมันเครื่องไว้ในบริเวณรอบๆ บ้าน จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณป้องกันการรุกรานจากงูได้ เพราะสัตว์อย่างงูจะเกลียดกลิ่นที่ฉุนและมีกลิ่นแรงๆ สิ่งนี้จะไล่งูได้ครับ แต่หากเป็นวิธีตามความเชื่อ หากเรามีต้นไม้ชนิดที่เป็นตระกูลเดียวกันกับตะบองเพชรอย่าง ต้นพญานาคราช ซึ่งหากดูตามรูปร่างของลำต้น จะมีลักษณะคล้ายกับลำตัวของพญานาค ซึ่งเป็นพญางูตามตำนาน งูที่เห็นว่าบ้านไหนมีต้นพญานาคราชปลูกอยู่ มักจะไม่กล้าเข้าใกล้เลยครับ  

By |สิงหาคม 18th, 2017|Categories: สาระน่ารู้|Tags: , |ปิดความเห็น บน งูกลัวอะไรมากที่สุด ป้องกันอย่างไรไม่ให้เข้าบ้าน

6 สมุนไพรไทยแก้หวัด

6 สมุนไพรไทยแก้หวัด ใกล้เข้าหน้าฝนกันแล้วความชุ่มชื้นในอากาศกำลังคืบคลานเข้ามา วันนี้จึงนำสรรพคุณของสมุนไพรมาฝากกันครับ อากาศก็ย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงจากร้อนกลายเป็นเย็น การเปลี่ยนแปลงของกลไกลธรรมชาตินี้จะส่งผลให้ร่างกายคนเราปรับตัวกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไข้หวัดจะมาพร้อมกับฝน และหากร่างกายคุณอ่อนแอคุณก็จะมีอาการคัดจมูก หายใจไม่สะดวก ไอ จาม ปวดหัวตัวร้อนตามแต่ภูมิต้านทานของแต่ละคนแต่เรายังมีทางป้องกันและเพิ่มภูมคุ้มกันและได้ผลด้วยสมุนไพรธรรมชาติในบ้านเราหาซื้อได้ง่ายและทำได้ด้วยตัวเองปลอดภัยจากสารพิษมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง 1กระเทียม กระเทียมเป็นสมุนไพรมีกลิ่นฉุน รสเผ็ด แต่ช่วยแก้คัดจมูกได้ดี เพียงนำกระเทียมมาเป็นส่วนประกอบของอาหารหรือจะเลือกทานแบบสดครั้งละ7-8กลีบทุกวันอาการหวัดคัดจมูกจะดีขึ้นตามลำดับ แต่ไม่ควรทานตอนท้องว่างเพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะได้ 2หญ้าใต้ใบ มีรสชาติขม นำต้นสดประมาณสามต้นล้างให้สะอาด ต้มกับน้ำเปล่า 1 ลิตรให้เดือดกรองเอาแต่น้ำ ดื่มก่อนอาหารครั้งละ 1 แก้ว เช้าและเย็น อาการหวัดจะบรรเทาลงและทำให้น้ำมูกแห้งอีกด้วย 3พริก เอาเฉพาะต้นและใบมาล้างให้สะอาด สับเป็นท่อนๆนำไปตากแดดให้แห้ง จากนั้นจึงน้ำไปต้มกับน้ำให้เดือด ใช้น้ำ 1 ลิตร ต้นพริกแห้งประมาณ 15 กรัม กรองเอาแต่น้ำ ดื่มครั้งละ 1 แก้วก่อนอาหาร เช้าและเย็น สรรพคุณจะช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น 4ขิง ใช้ขิงแก่ 1 แง่ง ล้างให้สะอาดหั่นเป็นแว่นๆ ใช้น้ำสะอาด 1 ลิตรต้มให้เดือด 5 นาทีจากนั้นตักขิงออกหรือจะกรองก็แล้วแต่

By |พฤษภาคม 25th, 2017|Categories: Uncategorized, การดูแลสุขภาพ, สาระน่ารู้|Tags: , |ปิดความเห็น บน 6 สมุนไพรไทยแก้หวัด

ผักและผลไม้ที่ช่วยชะลอความแก่

ผักและผลไม้ที่ช่วยชะลอความแก่ หลายๆคนคงเคยทานผักและผลไม้หลากหลายชนิดแต่มีผักและผลไม้ที่มีคุณสมบัติพิเศษจำนวน 7 ชนิดที่ช่วยชะลอความแก่ชราที่ได้ผลและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก 1 ลูกพรุน ในเนื้อลูกพรุนเป็นแหล่งโปรแตสเซียม เหล็กและไฟเบอร์ ลูกพรุนแห้งหนึ่งขีดมีธาตุเหล็ก 2.78 มิลลิกรัมและวิตามินซี ช่วยในการดูดซึมธาตุต่างๆเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะผู้หญิงในวัย  25 ปีขึ้นไปร่างกายจะเริ่มเสื่อมโทรมลง ไขมันจะเข้ามาแทนที่ในร่างกายผิวพรรณหมองคล้ำ ธาตุอาหารในลูกพรุนจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุต่างๆได้ดียิ่งขึ้นหากทานเป็นประจำจะทำให้ผิวพรรณมีเลือดฝาดเปร่งปรั่งอมชมพูไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางเลยทีเดียว 2 ถั่ว ถั่วไม่มีไขมันส่วนเกินอุดมไปด้วยโปรตีน เหล็ก วิตามินบี ไฟเบอร์ซึ่งในถั่วมีมากมาย การกินถั่วเป็นประจำจะช่วยทำให้อิ่มนาน ไฟเบอร์ในถั่วจะช่วยเคลือบกระเพาะของคุณ แน่นอนว่าหากต้องการลดความอ้วนที่ได้ทั้งสารอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกายและร่างกายที่สมส่วนแล้วถั่วทุกชนิดช่วยคุณได้แน่นอน 3 บรอคโคลี่ บรอคโคลี่เป็นพืชทีมีซีลีเนียมมากมายในตัวของมัน สารซีลีเนียมนี้จะเป็นตัวช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนังของคุณ ทำให้ดูอ่อนวัยเหมือนหนุ่มสาว และช่วยลบริ้วรอยที่เหี่ยวย่นได้เป็นอย่างดี ทำประกอบอาหารได้หลากหลาย รับประทานเป็นประจำจะทำให้คุณดูดีหนังไม่หย่อนยาน 4 แอปเปิ้ล แอปเปิ้ลมีสาระสำคัญ คือ เบต้าแคโรทีน วิตามินซีและเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ชื่อเพคติน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดความอยากอาหารลดความอ้วนได้ ในแอปเปิ้ลมีแป้งและน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวถึง 75 เปอร์เซ็น ทำให้ร่างกายน้ำไปใช้ได้ทันที ทานวันละ 2-3 ผลช่วยลดปริมาณโคเลสเตอรอลในร่างกายได้เป็นอย่างดี เป็นผลไม่ให้เส้นเลือดอุดตัน 5 กล้วยไข่ กล้วยทุกชนิดก็ดีต่อร่างกายทั้งนั้นแต่ กล้วยไข่มีความพิเศษคือ มีสารเบต้าแคโรทีนมากมายซึ่งมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระเกี่ยวโยงกับการสึกหรอของร่างกายโดยตรงทานทุกวันจะช่วยให้ร่างกายมีสารที่ช่วยซ่อมแซมร่างกายให้ดูดีไม่แก่เร็วอยู่เสมอ

By |พฤษภาคม 15th, 2017|Categories: สาระน่ารู้|Tags: , |ปิดความเห็น บน ผักและผลไม้ที่ช่วยชะลอความแก่

เหตุผล 5 ข้อทำให้คุณรู้สึกดีเมื่อได้ปั่นจักรยาน

 เหตุผล 5 ข้อทำให้คุณรู้สึกดีเมื่อได้ปั่นจักรยาน การปั่นจักรยานไม่เพียงแค่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณ เพราะมีอีก 5 เหตุผลที่คุณจะได้รับ ประโยชน์จากจักรยาน ของคุณอยู่ในชีวิตประจำวัน รถจักรยานมีมาช้านานและพัฒนารูปแบบมาเรื่อยๆ หลากหลายยี่ห้ออีกทั้งราคามีให้เลือกมากมาย ซึ่งในปัจจุบันมีผู้คนหันมาปั่นจักรยานกันมากขึ้นทั่วโลกแต่ ประโยชน์จากจักรยาน มีมากกว่าการออกกำลังกายด้วย  5 เหตุผลดังนี้ การปั่นจักรยานดีทั้งสุขภาพกายและจิตรใจ การปั่นจักรยานสิ่งแรกที่เราจะได้รับคือสุขภาพที่แข็งแรงเพราะการปั่นจักรยานนั้นร่างกายของเราแทบทุกส่วนจะขยับตลอดอีกทั้งยังไม่มีการกระแทกของข้อเท้าข้อเข่าหรือส่วนอื่นๆเหมือนกีฬาประเภทอื่นที่ต้องออกแรงวิ่งเอง กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายจะถูกกระตุ้นจากการปั่นจักรยานให้มีความแข็งแรงเหมาะกับทุกเพศทุกวัย  ส่วนทางด้านจิตรใจนั้นคุณจะได้รับความสุขโดยตรงจากการปั่นจักรยานไปในสถานที่ต่างๆกับการเคลื่อนที่ไปแบบเรื่อยๆ คุณจะเห็นวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างจากการขับขี่จักรยานยนต์และรถยนต์โดยสิ้นเชิงคุณจะรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างน่าทึ่ง ปั่นจักรยานเปิดโลกใบใหม่ใกล้ ๆ ตัวการปั่นจักรยานสองล้อกับตัวคุณไปตามบริเวณหมู่บ้านที่คุณอาศัยอยู่หรือออกไปนอกเขตเพียงเล็กน้อยคุณจะได้มองเห็นภาพเคลื่อนไหวของสถานที่นั้นๆไปอย่างช้าๆและรู้สึกได้ถึงความกว้างใหญ่ของสถานที่นั้นเหมือนโลกใบใหม่ที่คุณไม่เคยสำผัสที่ไหนมาก่อน ช่วยประหยัดเวลาและเงินในกระเป๋าจักรยานปราศจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงซอกซอยเล็กได้ดีกว่ายานพาหนะชนิดอื่นอีกด้วยคุณยังสามารถลัดเลาะไปในที่ต่างๆได้อย่างสะดวกและไม่ต้องกังวลว่าจะต้องแวะเติมน้ำมันที่ไหนเซฟเงินในกระเป๋าได้อย่างแน่นอน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จักรยานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพราะไม่ใช้เชื้อเพลิงทุกชนิดตัดเรื่องการพ่นมลพิษทิ้งไปได้เลยเป็นยานพาหนะ รักษ์โลกของจริง หากทุกคนหันมาใช้จักรยานจะช่วยลดมลพิษในอากาศและภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่งเลยทีเดียว ปลอดภัยกว่าพาหนะอื่น ๆ ถึงแม้จักรยานจะเป็นพาหนะที่คล้ายจักรยานยนต์ ทว่าอัตราความเร็วของจักรยานนั้นขึ้นอยู่กับแรงปั่นของเราเท่านั้น ฉะนั้นอาจบอกได้ว่า จักรยานจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่า หรือไม่ก็ช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุลงได้มากกว่ายานพาหนะชนิดอื่น ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณควรปั่นจักรยานด้วยความปลอดภัยขั้นสูงสุดโดยต้องสวมหมวกนิรภัยสำหรับนักปั่นจักรยาน สวมถุงมือ อุปกรณ์ชุดที่เซฟร่างกายเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญจักรยานของคุณควรมีไฟหน้าหลังพร้อมใช้งานอีกทั้งคุณต้องศึกษาวิธีการปั่นจักรยาน การใช้สัญญาณมือให้ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยหลีกเลี่ยงการปั่นจักรยานในเส้นทางที่สุ่มเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ การปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายทำได้ตั้งแต่หนึ่งคนขึ้นไป จะเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะก็ได้ จะรอช้ากันอยู่ทำไม มาออกกำลังกายและสนุกไปกับการปั่นจักรยานกันเลย

By |เมษายน 15th, 2017|Categories: การดูแลสุขภาพ, สาระน่ารู้|Tags: , |ปิดความเห็น บน เหตุผล 5 ข้อทำให้คุณรู้สึกดีเมื่อได้ปั่นจักรยาน

ดอกยางหมดดูยังไง

ดอกยางหมดอายุดูยังไง ยางรถเป็นส่วนสำคัญมากมีผลต่อการขับเคลื่อนของรถโดยตรง การใช้งานยางรถนานๆไปย่อมมีความเสื่อมของดอกยางที่เกิดจากการใช้งานเสียดสีกับถนนทุกครั้งที่ล้อหมุน ซึ่งแน่นอนว่าดอกยางก็จะสึกตามไปด้วยแล้วเราจะดูยังไง รู้ได้ยังไงว่าดอกยางรถยนต์หมดอายุของเราสึกจนถึงคราวต้องเปลี่ยนแล้ว บริษัทผู้ออกแบบ ผลิตยางรถได้คิดค้นสัญลักษณ์เครื่องหมายต่างๆไว้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ยางรถโดยสะดวกอยู่แล้ว โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือวัดว่าร่องดอกยางตื้นหรือลึกอยู่ โดยในร่องยางบางจุดจะมีเป็นเม็ดนูนขึ้นจากปกติประมาณ 1.5-2 มิลลิเมตร แต่ไม่นูนขึ้นมาจนเท่ากับหน้ายางตอนที่ยังใหม่ๆ เช่นยางใหม่ๆ ร่องอาจลึกถึง 8 มิลลิเมตรเท่ากันตลอด จะมีเพียงบางจุดที่มีร่องลึกแค่ 6-6.5มิลลิเมตร คล้ายเป็นเนินเตี้ยๆ อยู่ก้นร่องยาง ซึ่งเมื่อใช้งานไปนานๆดอกยางจะสึกลงจนถึงเม็ดเนินที่ก้นร่องยางและนั้นเป็นการบ่งบอกว่าดอกยางเตี้ยเกินไป หรือร่องยางสึกเกินไปแล้ว ปกติดอกยางจะมีร่องที่เป็นแนวตรงรอบยางอยู่แล้วแต่พอนำมาใช้งานนานวันเข้าดอกยางร่องยางก็จะสึกลงๆจนถึงจุดๆหนึ่งที่ผู้ออกแบบได้ทำเครื่องหมายไว้ให้สังเกตุ ร่องยางที่ต่อกันรอบวงก็จะกลายมาเป็นรอยต่อมีเนินมาขวางเส้นอยู่และนั่นทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าดอกยางรถยนต์หมดอายุสึกจนต้องเปลี่ยนเส้นใหม่แล้ว จุดเนินจะดูได้จากสัญลักษณ์สามเหลี่ยมขนาดเล็กที่ขอบของแก้มยางอยู่บริเวณใกล้ๆ กับขอบริมของหน้ายาง พร้อมตัวอักษร TWI ปกติแล้วจะมี 6 จุดที่แก้มยางแต่ละด้าน แบ่งระยะห่างเท่าๆ กัน ของยางแต่ละเส้น แต่ยางบางยี่ห้ออาจมีระยะห่างไม่เท่ากัน หรือไม่ได้มีทั้ง 6 จุด แต่ก็มีหลายจุดอยู่ในแต่ละด้านของยาง หรืออาจใช้สัญลักษณ์อื่นแทนสามเหลี่ยมเล็กๆก็มี อย่างไรก็ตามสัญลักษณ์เหล่านี้ ไม่ได้มีไว้ถึงบอกการสึกของยางเป็นเพียงจุดตำแหน่งสังเกตุดอกยางเท่านั้น  สัญลักษณ์ก็อาจสึกจางหายไปได้อาจจะเกิดจากการเข้าโค้งของรถหรือเบียกขอบฟุตบาทก็เป็นได้แต่หลักๆก็ให้เราสังเกตุดูเนินเม็ดเตี้ยๆ ที่ร่องยาง เมื่อไรที่ดอกสึกไปถึงยอด เนินนั้นแล้ว แสดงว่าดอกยางหมดร่องยางตื้นไม่ควรใช้ต่อ อย่าปล่อยให้สึกจนหมดเนินหรือหมดร่องเพราะผู้ออกแบบได้คิดคำณวนมาให้แล้วว่าเมื่อไหร่ที่ดอกยางยังไม่สึกถึงเม็ดเนินนั้นการรีดน้ำของยางรถก็ยังมีประสิทธิภาพพร้อมกับยังยึดเกาะถนนได้อย่างดีแต่หากเมื่อไหร่ที่ดอกยางสึกจนถึงจุดเนินที่กำหนดไว้แล้วการรีดน้ำจะไม่เป็นผลอันตรายก็จะตามมากับผู้ขับขี่ซึ่งประเมิณค่ามิได้ยางแต่ละยี่ห้อจะมีเม็ดเนินสูงเท่าไรนั้นจะพบได้ ว่าในแต่ละยี่ห้ออาจมีความสูงไม่เท่ากันแต่อยู่ในช่วงที่ใกล้เคียงกัน คือ 1.5-2 มิลลิเมตรผู้ใช้ยางไม่มีความจำเป็นต้องหาอุปกรณ์เครื่องวัดมาให้ยุ่งยากเพียงแค่คอยสังเกตุจุดเม็ดเนินดั่งข้างต้นก็เพียงพอแล้วแสะหมั่นสังเกตุตามแก้มยางอย่าให้มีรอยแตก อีกทั้งไม่ควรจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานๆหลายๆวันหรือเป็นเดือนเพราะอาจจะทำให้ยางบวมเสียรูปเพราะโดนกดทับเป็นเวลานานทำให้โครงสร้างของยางเสื่อมลงหากหมั่นดูแลเอาใจใส่แล้วทุกการขับขี่ของคุณก็จะปลอดภัยทุกการเดนทางอย่าลืมตรวจเช็คลมยางให้เหมาะสมด้วยนะครับ  

By |เมษายน 5th, 2017|Categories: การใช้รถ, สาระน่ารู้|Tags: , |ปิดความเห็น บน ดอกยางหมดดูยังไง